Factors Directory

Quantitative Trading Factors

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)

ภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไปปัจจัยทางเทคนิคปัจจัยทางอารมณ์

factor.formula

UM (โมเมนตัมขึ้น):

DM (โมเมนตัมลง):

UA(N) (ค่าเฉลี่ยโมเมนตัมขึ้น N วัน):

DA(N) (ค่าเฉลี่ยโมเมนตัมลง N วัน):

RSI (ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์):

ค่าเริ่มต้นของ UA:

ค่าเริ่มต้นของ DA:

ค่าเริ่มต้น:

ในสูตร:

  • :

    ราคาปิดของวัน เป็นข้อมูลราคาพื้นฐานสำหรับการคำนวณดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)

  • :

    ราคาปิดของเมื่อวาน ใช้ในการคำนวณการเปลี่ยนแปลงของราคาวันนี้

  • :

    โมเมนตัมขึ้น: หากราคาปิดของวันสูงกว่าวันก่อนหน้า จะนำส่วนต่างระหว่างราคาปิดของวันกับราคาปิดของวันก่อนหน้ามาใช้ หากราคาปิดของวันเท่ากับหรือต่ำกว่าวันก่อนหน้า ค่าจะเป็น 0 นั่นคือ จะพิจารณาเฉพาะการเพิ่มขึ้นของราคา

  • :

    โมเมนตัมลง: หากราคาปิดของวันต่ำกว่าวันก่อนหน้า จะนำส่วนต่างระหว่างราคาปิดของวันก่อนหน้ากับราคาปิดของวันปัจจุบันมาใช้ หากราคาปิดของวันเท่ากับหรือสูงกว่าวันก่อนหน้า ค่าจะเป็น 0 นั่นคือ จะพิจารณาเฉพาะขนาดของการลดลงของราคา

  • :

    ค่าเฉลี่ยโมเมนตัมขึ้น N วัน ค่าเฉลี่ยของโมเมนตัมขึ้นในช่วง N วันทำการล่าสุด โดยคำนวณโดยใช้วิธีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA)

  • :

    ค่าเฉลี่ยโมเมนตัมลง N วัน ค่าเฉลี่ยของโมเมนตัมลงในช่วง N วันทำการล่าสุด โดยคำนวณโดยใช้วิธีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA)

  • :

    ค่าเริ่มต้นของ UA คำนวณโดยใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) เพื่อคำนวณค่าเฉลี่ยของ UM ในช่วง N วันเป็นค่าเริ่มต้น

  • :

    ค่าเริ่มต้นของ DA คำนวณโดยใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) เพื่อคำนวณค่าเฉลี่ยของ DM N วัน เป็นค่าเริ่มต้น

  • :

    ระยะเวลาสำหรับการคำนวณ RSI ค่าเริ่มต้นคือ 14 ซึ่งบ่งชี้ถึงช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงราคาที่ใช้ในการคำนวณ RSI โดยปกติจะตั้งไว้ที่ 14 วันทำการ ช่วงเวลาที่สั้นกว่าจะทำให้ RSI มีความอ่อนไหวมากขึ้น ในขณะที่ช่วงเวลาที่ยาวกว่าจะทำให้มีความราบรื่นมากขึ้น

factor.explanation

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) เป็นตัววัดความแข็งแกร่งของราคาตลาดโดยการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของการเพิ่มขึ้นกับค่าเฉลี่ยของการลดลงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยมีค่าอยู่ในช่วง 0 ถึง 100 การตีความค่า RSI มีดังนี้:

  • ภาวะซื้อมากเกินไป: เมื่อค่า RSI สูงกว่า 70 โดยทั่วไปถือว่าเป็นภาวะซื้อมากเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาตลาดอาจมีมูลค่าสูงเกินจริง และอาจมีการลดลงหรือปรับฐานในอนาคต ภาวะซื้อมากเกินไปอาจบ่งชี้ว่าแรงซื้อหมดลงและตลาดกำลังจะกลับตัว

  • ภาวะขายมากเกินไป: เมื่อค่า RSI ต่ำกว่า 30 โดยทั่วไปถือว่าเป็นภาวะขายมากเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาตลาดอาจมีมูลค่าต่ำเกินไป และอาจมีการดีดตัวหรือฟื้นตัวในอนาคต ภาวะขายมากเกินไปอาจบ่งชี้ว่าแรงขายหมดลงและตลาดกำลังจะกลับตัว

  • เขตเป็นกลาง: เมื่อค่า RSI อยู่ระหว่าง 30 ถึง 70 ถือว่าเป็นเขตเป็นกลาง ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในสภาวะของการรวมตัวหรือแนวโน้มที่ไม่ชัดเจน

ตัวบ่งชี้ RSI สามารถใช้เพื่อระบุจุดกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่สมบูรณ์แบบและควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อ RSI เกิด Divergence นั่นคือเมื่อราคาทำจุดสูงสุด/ต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ไม่สามารถทำจุดสูงสุด/ต่ำสุดใหม่ได้พร้อมกัน ก็สามารถใช้เป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มได้ นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของตัวบ่งชี้ RSI อาจแตกต่างกันไปในตลาดและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และควรปรับพารามิเตอร์และการตีความตามสถานการณ์เฉพาะ

Related Factors