Factors Directory

Quantitative Trading Factors

โมเมนตัมอัตราส่วนปริมาณการซื้อขายระหว่างวัน

ปัจจัยสภาพคล่องปัจจัยทางอารมณ์

factor.formula

โดยที่:

  • :

    คือ ปริมาณการซื้อขายในช่วง 30 นาทีก่อนเปิดตลาดช่วงเช้าของวันที่ t-i ปริมาณการซื้อขายนี้สะท้อนถึงกิจกรรมการซื้อขายในช่วงเปิดตลาดช่วงเช้า

  • :

    คือ ปริมาณการซื้อขายในช่วง 30 นาทีก่อนเปิดตลาดช่วงบ่ายของวันที่ t-i ปริมาณการซื้อขายนี้สะท้อนถึงกิจกรรมการซื้อขายในช่วงเปิดตลาดช่วงบ่าย

  • :

    คือ ปัจจัยถ่วงน้ำหนักตามเวลา ซึ่งใช้ถ่วงน้ำหนักที่แตกต่างกันให้กับอัตราส่วนปริมาณการซื้อขายในช่วงเวลาต่างๆ วิธีการคำนวณน้ำหนักที่เป็นทางเลือกมีดังนี้:\begin{itemize} \item \textbf{การถ่วงน้ำหนักแบบเอ็กซ์โพเนนเชียล:} $w_{t-i} = \frac{1-\alpha^{i}}{1-\alpha}$. การถ่วงน้ำหนักแบบเอ็กซ์โพเนนเชียลเน้นความสำคัญของข้อมูลล่าสุด และน้ำหนักจะลดลงแบบเอ็กซ์โพเนนเชียลเมื่อเวลาผ่านไป $\alpha$ ควบคุมความเร็วของการลดลง ยิ่งค่าใกล้ 1 การลดลงก็จะยิ่งช้าลง;\item \textbf{การหาค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์:} $w_{t-i} = 1$. ค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์ให้น้ำหนักเท่ากันกับแต่ละจุดเวลาในอดีต \end{itemize}

  • :

    คือ พารามิเตอร์ความแรงของการลดลงของข้อมูลในการถ่วงน้ำหนักแบบเอ็กซ์โพเนนเชียล โดยปกติจะตั้งค่าเป็น $\alpha = 1 - \frac{1}{d}$ โดยที่ d คือความยาวของช่วงเวลาที่พิจารณาย้อนหลัง การตั้งค่านี้ทำให้การลดลงช้าลงเมื่อช่วงเวลาที่พิจารณาย้อนหลังยาวนานขึ้น

  • :

    คือ ความยาวของช่วงเวลาที่พิจารณาย้อนหลัง เช่น จำนวนวันซื้อขายที่พิจารณาเมื่อคำนวณโมเมนตัมอัตราส่วนปริมาณการซื้อขาย โดยปกติจะตั้งค่าเป็นจำนวนวันซื้อขายย้อนหลังไปถึงวันซื้อขายสุดท้ายของแต่ละเดือน ความยาวของช่วงเวลาที่พิจารณาย้อนหลังจะกำหนดความไวของปัจจัยต่ออัตราส่วนปริมาณการซื้อขายในอดีต ช่วงเวลาที่พิจารณาย้อนหลังที่ยาวนานขึ้นสามารถลดทอนสัญญาณรบกวนและจับภาพแนวโน้มระยะยาวได้ ช่วงเวลาที่พิจารณาย้อนหลังที่สั้นลงจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงล่าสุดมากกว่า

factor.explanation

ปัจจัยนี้จับภาพความเชื่อมั่นของตลาดและการเปลี่ยนแปลงสภาพคล่องตามความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ของปริมาณการซื้อขายระหว่างวัน หลักการสำคัญคือภายใต้สถานการณ์ปกติ ช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาซื้อขายที่คึกคักที่สุด และปริมาณการซื้อขายมักจะมากกว่าช่วงบ่าย อย่างไรก็ตาม หากหุ้นมีปริมาณการซื้อขายต่ำในช่วงเช้า หรือมีปริมาณการซื้อขายสูงผิดปกติในช่วงบ่าย อาจบ่งชี้ว่าการรับรู้ของตลาดที่มีต่อหุ้นนั้นเปลี่ยนแปลงไป เมื่อค่าปัจจัยต่ำ (นั่นคืออัตราส่วนปริมาณการซื้อขายต่ำ) อาจหมายความว่าหุ้นนั้นมีมูลค่าต่ำกว่าที่ควร หรือมีกระแสเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าในเดือนถัดไป ในทางกลับกัน หากปริมาณการซื้อขายในช่วงเช้ามากเกินไป และปริมาณการซื้อขายในช่วงบ่ายไม่เพียงพอ อาจบ่งชี้ว่าหุ้นกำลังเผชิญกับแรงขายในระยะสั้น และผลตอบแทนในอนาคตอาจอ่อนแอลง ดังนั้น ปัจจัยนี้จึงถือได้ว่าเป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมแบบย้อนกลับ ค่าที่ต่ำอาจบ่งชี้ถึงโมเมนตัมผลตอบแทนที่เป็นบวกในอนาคต และสามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้อ้างอิงสำหรับการเลือกหุ้นได้

Related Factors